-
WORD Research this...Mark 6
- 1 ฝ่ายพระองค์ได้เสด็จออกจากที่นั่น ไปยังบ้านเมืองของพระองค์ และเหล่าสาวกของพระองค์ก็ตามพระองค์ไป
- 2 พอถึงวันสะบาโตพระองค์ทรงตั้งต้นสั่งสอนในธรรมศาลา และคนเป็นอันมากที่ได้ยินพระองค์ก็ประหลาดใจนักพูดกันว่า “คนนี้ได้ความคิดนี้มาจากไหน สติปัญญาที่ได้ประทานแก่คนนี้เป็นปัญญาอย่างใด จึงทำการมหัศจรรย์อย่างนี้สำเร็จด้วยมือของเขา
- 3 คนนี้เป็นช่างไม้บุตรชายนางมารีย์มิใช่หรือ ยากอบ โยเสส ยูดาส และซีโมนเป็นน้องชายมิใช่หรือ และน้องสาวทั้งหลายของเขาก็อยู่ที่นี่กับเรามิใช่หรือ” เขาทั้งหลายจึงหมางใจในพระองค์
- 4 ฝ่ายพระเยซูตรัสกับเขาว่า “ศาสดาพยากรณ์จะไม่ขาดความนับถือเว้นแต่ในบ้านเมืองของตน ท่ามกลางญาติพี่น้องของตน และในวงศ์วานของตน”
- 5 พระองค์จะกระทำการมหัศจรรย์ที่นั่นไม่ได้ เว้นแต่ได้วางพระหัตถ์ถูกต้องคนเจ็บบางคนให้หายโรค
- 6 พระองค์ก็ประหลาดพระทัยเพราะเขาไม่มีความเชื่อ แล้วพระองค์จึงเสด็จไปสั่งสอนตามหมู่บ้านโดยรอบ
- 7 พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมา แล้วทรงเริ่มใช้เขาให้ออกไปเป็นคู่ๆ ทรงประทานอำนาจให้เขาขับผีโสโครกออกได้
- 8 และตรัสกำชับเขาไม่ให้เอาอะไรไปใช้ตามทางเว้นแต่ไม้เท้าสิ่งเดียว ห้ามมิให้เอาอาหารหรือย่าม หรือหาสตางค์ใส่ไถ้ไป
- 9 แต่ให้สวมรองเท้าและไม่ให้สวมเสื้อสองตัว
- 10 แล้วพระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “ถ้าไปแห่งใด เมื่อเข้าอาศัยในเรือนไหน ก็อาศัยในเรือนนั้นจนกว่าจะไปจากที่นั่น
- 11 และถ้าผู้ใดไม่ต้อนรับไม่ฟังท่านทั้งหลาย เมื่อจะไปจากที่นั่นจงสะบัดผงคลีใต้ฝ่าเท้าของท่านออกเป็นสักขีพยานต่อเขา เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ในวันพิพากษานั้น โทษของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์จะเบากว่าโทษของเมืองนั้น”
- 12 ฝ่ายเหล่าสาวกก็ออกไปเทศนาประกาศให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่
- 13 เขาได้ขับผีให้ออกเสียหลายผี และได้เอาน้ำมันชโลมคนเจ็บป่วยหลายคนให้หายโรค
- 14 ฝ่ายกษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเรื่องของพระองค์ (เพราะว่าพระนามของพระองค์ได้เลื่องลือไป) แล้วท่านตรัสว่า “ยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว เหตุฉะนั้นจึงทำการมหัศจรรย์ได้”
- 15 แต่คนอื่นว่า “เป็นเอลียาห์” และคนอื่นๆว่า “เป็นศาสดาพยากรณ์คนหนึ่งหรือเหมือนคนหนึ่งในพวกศาสดาพยากรณ์”
- 16 ฝ่ายเฮโรดเมื่อทรงได้ยินแล้วจึงตรัสว่า “คือยอห์นนั้นเองที่เราได้ตัดศีรษะเสีย ท่านได้เป็นขึ้นมาจากความตาย”
- 17 ด้วยว่าเฮโรดได้ใช้คนไปจับยอห์น และล่ามโซ่ขังคุกไว้ เพราะเห็นแก่นางเฮโรเดียสภรรยาฟีลิปน้องชายของตน ด้วยเฮโรดได้รับนางนั้นเป็นภรรยาของตน
- 18 เพราะยอห์นได้เคยทูลเฮโรดว่า “ท่านผิดพระราชบัญญัติที่รับภรรยาของน้องชายมาเป็นภรรยาของตน”
- 19 นางเฮโรเดียสจึงผูกพยาบาทยอห์นและปรารถนาจะฆ่าท่านเสียแต่ฆ่าไม่ได้
- 20 เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์นด้วยรู้ว่า ท่านเป็นคนชอบธรรมและบริสุทธิ์จึงได้ป้องกันท่านไว้ เมื่อเฮโรดได้ยินคำสั่งสอนของท่านก็ปฏิบัติตามหลายสิ่งและยินดีรับฟังท่าน
- 21 ครั้นอยู่มาวันหนึ่งเป็นโอกาสดีคือเป็นวันฉลองวันกำเนิดของเฮโรด เฮโรดให้จัดการเลี้ยงขุนนางกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และคนสำคัญๆทั้งปวงในแคว้นกาลิลี
- 22 เมื่อบุตรสาวของนางเฮโรเดียสเข้ามาเต้นรำ ทำให้เฮโรดและแขกทั้งปวงซึ่งเอนกายลงอยู่ด้วยกันนั้นชอบใจ กษัตริย์จึงตรัสกับหญิงสาวนั้นว่า “เธอจะขอสิ่งใดจากเรา เราก็จะให้สิ่งนั้นแก่เธอ”
- 23 และกษัตริย์จึงทรงปฏิญาณตัวไว้กับหญิงสาวนั้นว่า “เธอจะขอสิ่งใดๆจากเรา เราจะให้สิ่งนั้นแก่เธอจนถึงครึ่งราชสมบัติของเรา”
- 24 หญิงสาวนั้นจึงออกไปถามมารดาว่า “ฉันจะขอสิ่งใดดี” มารดาจึงตอบว่า “จงขอศีรษะยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาเถิด”
- 25 ในทันใดนั้นหญิงสาวก็รีบเข้าไปเฝ้ากษัตริย์ทูลว่า “หม่อมฉันขอศีรษะยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันเดี๋ยวนี้เพคะ”
- 26 กษัตริย์ทรงเป็นทุกข์นัก แต่เพราะเหตุได้ทรงปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่หน้าแขกทั้งปวงซึ่งเอนกายลงอยู่ด้วยกัน ก็ปฏิเสธไม่ได้
- 27 ในขณะนั้นกษัตริย์จึงรับสั่งเพชฌฆาตให้ไปตัดศีรษะยอห์นมา เพชฌฆาตก็ไปตัดศีรษะยอห์นในคุก
- 28 เอาศีรษะของยอห์นใส่ถาดมาให้แก่หญิงสาวนั้น หญิงสาวนั้นก็เอาไปให้แก่มารดาของตน
- 29 เมื่อสาวกของยอห์นรู้เหตุแล้ว ก็พากันมารับเอาศพของท่านไปฝังไว้ในอุโมงค์
- 30 ฝ่ายอัครสาวกพากันมาหาพระเยซู และได้ทูลถึงบรรดาการซึ่งเขาได้กระทำและได้สั่งสอน
- 31 แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า “ท่านทั้งหลายจงไปหาที่เปลี่ยวหยุดพักหายเหนื่อยสักหน่อยหนึ่ง” เพราะว่ามีคนไปมาเป็นอันมากจนไม่มีเวลาว่างจะรับประทานอาหารได้
- 32 พระองค์จึงเสด็จลงเรือกับสาวกไปยังที่เปลี่ยวแต่ลำพัง
- 33 คนเป็นอันมากเห็นพระองค์กับสาวกกำลังไป และมีหลายคนจำพระองค์ได้ จึงพากันวิ่งออกจากบ้านเมืองทั้งปวงไปถึงก่อน และพากันเฝ้าพระองค์
- 34 ครั้นพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือแล้ว ก็ทอดพระเนตรเห็นประชาชนหมู่ใหญ่ และพระองค์ทรงสงสารเขา เพราะว่าเขาเป็นเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง พระองค์จึงเริ่มสั่งสอนเขาเป็นหลายข้อหลายประการ
- 35 เมื่อเวลาล่วงไปมากแล้ว พวกสาวกของพระองค์มาทูลพระองค์ว่า “ที่นี่กันดารอาหารนัก และบัดนี้เวลาก็เย็นลงมากแล้ว
- 36 ขอให้ประชาชนไปเสียเถิด เพื่อเขาจะได้ไปซื้ออาหารรับประทานตามบ้านไร่บ้านนาที่อยู่แถบนี้ เพราะเขาไม่มีอะไรที่จะรับประทานเลย”
- 37 แต่พระองค์ตรัสตอบแก่เหล่าสาวกว่า “พวกท่านจงเลี้ยงเขาเถิด” เขาทูลพระองค์ว่า “จะให้พวกข้าพระองค์ไปซื้ออาหารสักสองร้อยเหรียญเดนาริอันให้เขารับประทานหรือ”
- 38 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “พวกท่านมีขนมปังอยู่กี่ก้อน ไปดูซิ” เมื่อรู้แล้วเขาจึงทูลว่า “มีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว”
- 39 พระองค์จึงตรัสสั่งพวกสาวกให้จัดคนทั้งปวงให้นั่งรวมกันที่หญ้าสดเป็นหมู่ๆ
- 40 ประชาชนก็ได้นั่งรวมกันเป็นหมู่ๆ หมู่ละร้อยคนบ้าง ห้าสิบบ้าง
- 41 เมื่อพระองค์ทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นแล้ว ก็แหงนพระพักตร์ดูฟ้าสวรรค์ขอบพระคุณ แล้วหักขนมปังนั้นให้เหล่าสาวกให้เขาแจกแก่คนทั้งปวง และปลาสองตัวนั้นพระองค์ทรงแบ่งให้ทั่วกันด้วย
- 42 เขาได้กินอิ่มทุกคน
- 43 ส่วนเศษขนมปังและปลาที่เหลือนั้นเขาเก็บไว้ได้ถึงสิบสองกระบุงเต็ม
- 44 และในจำนวนคนที่ได้รับประทานขนมปังนั้น มีผู้ชายประมาณห้าพันคน
- 45 และทันใดนั้นพระองค์ได้ตรัสให้เหล่าสาวกของพระองค์ลงในเรือข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งถึงเมืองเบธไซดาก่อน ส่วนพระองค์ทรงรอส่งประชาชนกลับบ้าน
- 46 เมื่อพระองค์ทรงลาเขาทั้งหลายแล้วก็เสด็จขึ้นภูเขาเพื่ออธิษฐานที่นั่น
- 47 เมื่อค่ำลงแล้ว เรือของเหล่าสาวกอยู่กลางทะเล ส่วนพระองค์อยู่บนฝั่งแต่ผู้เดียว
- 48 แล้วพระองค์ทอดพระเนตรเห็นเหล่าสาวกตีกรรเชียงลำบากเพราะทวนลมอยู่ ครั้นเวลาสามยามเศษ พระองค์จึงทรงดำเนินบนน้ำทะเลไปยังเหล่าสาวก และทรงดำเนินดังจะเลยเขาไป
- 49 เมื่อเหล่าสาวกเห็นพระองค์ทรงดำเนินบนทะเล เขาสำคัญว่าผี แล้วพากันร้องอึงไป
- 50 เพราะว่าทุกคนเห็นพระองค์แล้วก็กลัว แต่ในทันใดนั้นพระองค์ตรัสแก่เขาว่า “จงชื่นใจเถิด คือเราเอง อย่ากลัวเลย”
- 51 พระองค์จึงเสด็จขึ้นไปหาเขาบนเรือ แล้วลมก็เงียบลง เหล่าสาวกก็ประหลาดอัศจรรย์ใจเหลือประมาณ
- 52 ด้วยว่าการอัศจรรย์เรื่องขนมปังนั้นเขายังไม่เข้าใจ เพราะใจเขายังแข็งกระด้าง
- 53 ครั้นข้ามฟากไปแล้ว เขาจอดเรือที่แคว้นเยนเนซาเรท
- 54 เมื่อขึ้นจากเรือแล้ว คนทั้งปวงก็จำพระองค์ได้ทันที
- 55 และเขารีบไปทั่วตลอดแว่นแคว้นล้อมรอบ เริ่มเอาคนเจ็บป่วยใส่แคร่หามมายังที่เขาได้ยินข่าวว่าพระองค์อยู่นั้น
- 56 แล้วพระองค์เสด็จไปที่ไหนๆ ไม่ว่าในหมู่บ้าน ในตำบล หรือในเมือง เขาก็เอาคนเจ็บป่วยมาวางตามถนน ทูลอ้อนวอนขอพระองค์โปรดให้คนเจ็บป่วยแตะต้องแต่ชายฉลองพระองค์ และผู้ใดได้แตะต้องพระองค์แล้วก็หายป่วยทุกคน
- 1 และพระองค์ได้เสด็จออกจากที่นั่น และเข้ามาในบ้านเมืองของพระองค์เอง และพวกสาวกของพระองค์ก็ตามพระองค์ไป
- 2 และเมื่อถึงวันสะบาโตแล้ว พระองค์ทรงตั้งต้นสั่งสอนในธรรมศาลา และหลายคนที่ได้ยินพระองค์ก็ประหลาดใจ โดยกล่าวว่า “คนนี้ได้สิ่งเหล่านี้มาจากไหน และสติปัญญาซึ่งได้ประทานแก่เขาเป็นอย่างใด จนบรรดาการอิทธิฤทธิ์เช่นนี้ก็ถูกกระทำโดยมือของเขา
- 3 คนนี้เป็นช่างไม้ บุตรชายของนางมารีย์ และเป็นพี่ชายของยากอบ และโยเสส และของยูดาส และซีโมนมิใช่หรือ และน้องสาวทั้งหลายของเขาก็อยู่ที่นี่กับพวกเรามิใช่หรือ” และพวกเขาจึงหมางใจในพระองค์
- 4 แต่พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “ศาสดาพยากรณ์ย่อมไม่ปราศจากเกียรติยศ เว้นแต่ในบ้านเมืองของตนเอง และท่ามกลางญาติพี่น้องของตนเอง และในครัวเรือนของตนเอง”
- 5 และพระองค์จะกระทำการอิทธิฤทธิ์ที่นั่นไม่ได้ เว้นแต่พระองค์ได้วางพระหัตถ์ของพระองค์บนคนเจ็บป่วยบางคน และรักษาพวกเขาให้หาย
- 6 และพระองค์ก็ประหลาดพระทัยเพราะเหตุความไม่เชื่อของพวกเขา และพระองค์จึงเสด็จไปสั่งสอนโดยรอบตามหมู่บ้านต่าง ๆ
- 7 และพระองค์ทรงเรียกสิบสองคนนั้นมาหาพระองค์ และทรงเริ่มส่งพวกเขาให้ออกไปเป็นคู่ ๆ และประทานอำนาจให้พวกเขาเหนือผีโสโครกทั้งหลาย
- 8 และตรัสกำชับพวกเขาว่า ไม่ให้พวกเขาเอาอะไรไปสำหรับการเดินทางของพวกเขา เว้นแต่ไม้เท้าสิ่งเดียว ไม่เอาย่าม ไม่เอาอาหาร ไม่เอาเงินในกระเป๋าของพวกเขาไป
- 9 แต่ให้สวมรองเท้าแตะ และไม่ให้สวมเสื้อคลุมสองตัว
- 10 และพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ในสถานที่แห่งใดก็ตามที่พวกท่านเข้าอาศัยในบ้านหลังหนึ่ง จงอาศัยในบ้านนั้นจนกว่าพวกท่านจะไปจากที่นั่น
- 11 และผู้ใดก็ตามที่จะไม่ต้อนรับพวกท่าน และไม่ฟังพวกท่าน เมื่อพวกท่านจะไปจากที่นั่น จงสะบัดผงคลีใต้ฝ่าเท้าของพวกท่านออกเสีย เพื่อจะได้เป็นพยานต่อพวกเขา เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในวันแห่งการพิพากษานั้น โทษของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์จะเบากว่าโทษของนครนั้น”
- 12 และพวกสาวกก็ออกไป และประกาศว่าคนทั้งหลายควรกลับใจเสียใหม่
- 13 และพวกเขาได้ขับผีออกหลายตน และได้ชโลมคนเจ็บป่วยหลายคนด้วยน้ำมัน และรักษาพวกเขาให้หาย
- 14 และกษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเรื่องของพระองค์ (เพราะว่าพระนามของพระองค์ได้เลื่องลือไป) และท่านตรัสว่า “ยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาได้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และเหตุฉะนั้นบรรดาการอิทธิฤทธิ์จึงได้แสดงพวกมันเองออกมาในตัวเขา”
- 15 คนอื่น ๆ ว่า “เป็นเอลียาห์” และคนอื่น ๆ ว่า “เป็นศาสดาพยากรณ์คนหนึ่ง หรือเหมือนคนหนึ่งในพวกศาสดาพยากรณ์”
- 16 แต่เมื่อเฮโรดทรงได้ยินเรื่องนั้นแล้ว ท่านจึงตรัสว่า “คือยอห์นนั้นเอง ผู้ที่เราได้ตัดศีรษะเสีย เขาเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว”
- 17 ด้วยว่าเฮโรดเองได้ส่งไปและจับยอห์น และมัดเขาไว้ในคุก เพราะเห็นแก่นางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตน ด้วยเฮโรดได้รับนางนั้นเป็นภรรยาของตน
- 18 เพราะยอห์นได้กล่าวแก่เฮโรดว่า “เป็นการผิดพระราชบัญญัติที่ท่านจะรับภรรยาของน้องชายมาเป็นภรรยาของตน”
- 19 เหตุฉะนั้นนางเฮโรเดียสจึงผูกพยาบาทต่อยอห์น และปรารถนาจะฆ่าท่านเสีย แต่นางไม่สามารถทำได้
- 20 เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์น โดยทราบว่าท่านเป็นคนชอบธรรมและบริสุทธิ์ และได้เชื่อฟังท่าน และเมื่อเฮโรดได้ยินท่าน เฮโรดก็ปฏิบัติตามหลายสิ่ง และรับฟังท่านด้วยความยินดี
- 21 และเมื่อวันที่เหมาะสมมาถึง ในวันฉลองวันกำเนิดของเฮโรด เฮโรดให้จัดการเลี้ยงบรรดาขุนนางของท่าน พวกนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และคนสำคัญ ๆ ทั้งหลายแห่งแคว้นกาลิลี
- 22 และเมื่อบุตรสาวของนางเฮโรเดียสเข้ามาและเต้นรำ และทำให้เฮโรดและคนทั้งหลายซึ่งเอนกายลงอยู่ด้วยกันกับท่านนั้นชอบใจ กษัตริย์จึงตรัสกับหญิงสาวนั้นว่า “จงขอสิ่งใดก็ตามที่เจ้าปรารถนาจากเรา และเราก็จะให้สิ่งนั้นแก่เจ้า”
- 23 และเฮโรดจึงทรงปฏิญาณตัวไว้กับหญิงสาวนั้นว่า “สิ่งใดก็ตามที่เจ้าจะขอจากเรา เราจะให้สิ่งนั้นแก่เจ้า จนถึงครึ่งราชสมบัติของเรา”
- 24 และหญิงสาวนั้นจึงออกไป และกล่าวแก่มารดาของเธอว่า “ลูกจะขอสิ่งใดดี” และมารดากล่าวว่า “จงขอศีรษะของยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาเถิด”
- 25 และในทันใดนั้นเธอก็เข้ามาเฝ้ากษัตริย์ด้วยความเร่งรีบ และทูลขอ โดยทูลว่า “หม่อมฉันปรารถนาให้พระองค์ประทานศีรษะของยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันเดี๋ยวนี้เพคะ”
- 26 และกษัตริย์ก็เศร้าใจยิ่งนัก แต่เพราะเห็นแก่คำปฏิญาณของท่านนั้น และเพราะเห็นแก่คนทั้งหลายซึ่งเอนกายลงรับประทานอาหารด้วยกันกับท่าน ท่านจึงไม่อยากปฏิเสธเธอ
- 27 และในทันใดนั้นกษัตริย์จึงส่งเพชฌฆาตคนหนึ่งไป และสั่งให้นำศีรษะยอห์นมา และเพชฌฆาตก็ไป และตัดศีรษะของยอห์นในคุก
- 28 และนำศีรษะของยอห์นใส่ถาดมา และมอบศีรษะของยอห์นให้แก่หญิงสาวนั้น และหญิงสาวนั้นก็มอบศีรษะของยอห์นให้แก่มารดาของเธอ
- 29 และเมื่อพวกสาวกของยอห์นได้ยินเรื่องนี้แล้ว พวกเขาก็มาและรับเอาศพของท่านไป และฝังศพไว้ในอุโมงค์
- 30 และพวกอัครทูตรวมตัวกันมาหาพระเยซู และได้ทูลพระองค์ถึงสิ่งสารพัด ทั้งที่พวกเขาได้กระทำ และที่พวกเขาได้สั่งสอนนั้น
- 31 และพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงพากันมาอยู่ในถิ่นทุรกันดารแต่ลำพัง และพักผ่อนสักหน่อยหนึ่งเถิด” ด้วยว่ามีคนเป็นอันมากไปมา และพวกเขาไม่มีเวลาว่างแม้แต่จะรับประทานอาหารได้
- 32 และพระองค์กับพวกสาวกไปยังถิ่นทุรกันดารแต่ลำพัง โดยลงเรือส่วนตัว
- 33 และประชาชนได้เห็นพระองค์กับพวกสาวกกำลังจากไป และมีหลายคนรู้จักพระองค์ และวิ่งออกจากบรรดานครไปที่นั่น และมาถึงก่อนพระองค์กับพวกสาวก และพากันมาเฝ้าพระองค์
- 34 และพระเยซู เมื่อพระองค์เสด็จออกมา ก็ทอดพระเนตรเห็นประชาชนเป็นอันมาก และทรงมีพระทัยกรุณาต่อพวกเขา เพราะว่าพวกเขาเป็นเหมือนฝูงแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง และพระองค์จึงเริ่มสั่งสอนพวกเขาเป็นหลายข้อหลายประการ
- 35 และเมื่อวันนั้นล่วงไปมากแล้ว พวกสาวกของพระองค์ก็มาหาพระองค์ และทูลว่า “สถานที่แห่งนี้เป็นถิ่นทุรกันดาร และบัดนี้เวลาก็ล่วงไปมากแล้ว
- 36 ขอทรงส่งประชาชนไปเสียเถิด เพื่อพวกเขาจะได้เข้าไปในบ้านนอกรอบ ๆ และเข้าไปในหมู่บ้านต่าง ๆ และซื้ออาหารสำหรับตนเอง เพราะพวกเขาไม่มีอะไรที่จะรับประทานเลย”
- 37 พระองค์ทรงตอบและตรัสกับพวกสาวกว่า “พวกท่านจงเลี้ยงพวกเขาเถิด” และพวกสาวกจึงทูลพระองค์ว่า “จะให้พวกข้าพระองค์ไปและซื้ออาหารสักสองร้อยเหรียญเดนาริอัน และให้พวกเขารับประทานหรือ”
- 38 พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “พวกท่านมีขนมปังอยู่กี่ก้อน จงไปและดูซิ” และเมื่อพวกเขาทราบแล้ว พวกเขาจึงทูลว่า “มีขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว”
- 39 และพระองค์ตรัสสั่งพวกสาวกให้จัดพวกเขาทุกคนให้นั่งบนหญ้าสดเป็นหมู่ ๆ
- 40 และประชาชนก็ได้นั่งลงเป็นหมู่ ๆ หมู่ละหนึ่งร้อยคนบ้าง และห้าสิบคนบ้าง
- 41 และเมื่อพระองค์ทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นแล้ว พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ดูฟ้าสวรรค์ และทรงขอบพระคุณ และหักขนมปังเหล่านั้น และส่งขนมปังเหล่านั้นให้พวกสาวกของพระองค์เพื่อให้พวกเขาแจกแก่คนทั้งปวง และปลาสองตัวนั้นพระองค์ทรงแบ่งในท่ามกลางพวกเขาทุกคน
- 42 และเขาทั้งหลายได้รับประทานทุกคนและอิ่ม
- 43 และพวกเขาเก็บเศษอาหารที่ยังเหลืออยู่นั้น และของเศษปลาเหล่านั้นได้สิบสองกระบุงเต็ม
- 44 และคนทั้งหลายที่ได้รับประทานขนมปังเหล่านั้น มีผู้ชายประมาณห้าพันคน
- 45 และในทันใดนั้นพระองค์ทรงบังคับพวกสาวกของพระองค์ให้เข้าไปในเรือลำนั้น และข้ามฟากไปยังเมืองเบธไซดาก่อน ขณะที่พระองค์ทรงส่งประชาชนให้กลับไป
- 46 และเมื่อพระองค์ทรงส่งเขาทั้งหลายให้กลับไปแล้ว พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาลูกหนึ่งเพื่อจะอธิษฐาน
- 47 และเมื่อมาถึงเวลาเย็นแล้ว เรือลำนั้นก็อยู่กลางทะเล และพระองค์ยังทรงอยู่บนบกแต่ผู้เดียว
- 48 และพระองค์ทอดพระเนตรเห็นพวกสาวกตีกรรเชียงลำบาก เพราะลมนั้นพัดต้านพวกเขา และประมาณช่วงเวลายามที่สี่ในเวลากลางคืน พระองค์เสด็จมายังพวกเขา โดยดำเนินบนทะเล และเกือบจะเลยพวกเขาไป
- 49 แต่เมื่อพวกเขาเห็นพระองค์ดำเนินมาบนทะเล พวกเขาคิดเอาเองว่าเป็นผี และร้องออกมา
- 50 เพราะว่าพวกเขาทุกคนเห็นพระองค์ และหวาดหวั่น และในทันใดนั้นพระองค์ทรงสนทนากับพวกเขา และตรัสกับพวกเขาว่า “จงชื่นใจเถิด คือเราเอง อย่ากลัวเลย”
- 51 และพระองค์จึงเสด็จขึ้นไปหาพวกเขาในเรือ และลมก็สงบลง และพวกเขาก็ประหลาดใจในตนเองเหลือประมาณ และรู้สึกพิศวง
- 52 ด้วยว่าพวกเขาไม่ได้พิจารณาเรื่องการอัศจรรย์แห่งขนมปังเหล่านั้น เพราะใจของพวกเขายังแข็งกระด้างอยู่
- 53 และเมื่อพระองค์กับพวกสาวกข้ามฟากไปแล้ว พวกเขาก็มาถึงแผ่นดินเยนเนซาเรท และเข้าฝั่ง
- 54 และเมื่อพระองค์กับพวกสาวกออกมาจากเรือแล้ว ในทันใดนั้นคนทั้งปวงก็รู้จักพระองค์
- 55 และวิ่งไปทั่วตลอดแว่นแคว้นล้อมรอบ และเริ่มหามคนทั้งหลายที่เจ็บป่วยมาในแคร่ ในที่ซึ่งพวกเขาได้ยินว่าพระองค์อยู่นั้น
- 56 และที่ไหนก็ตามที่พระองค์เสด็จเข้าไป ในบรรดาหมู่บ้าน ในนครทั้งหลาย หรือในบ้านนอก พวกเขาก็เอาบรรดาคนเจ็บป่วยมาวางตามถนน และทูลอ้อนวอนขอพระองค์โปรดให้คนเจ็บป่วยเหล่านั้นแตะต้องแต่ชายเสื้อผ้าของพระองค์ และทุกคนที่ได้แตะต้องพระองค์แล้วก็หายเป็นปกติ
-
-
King James Version (kjv)
- Afrikaans
- Albanian
- Arabic
- Armenian
- Basque
- Breton
- Calo
- Chamorro
- Cherokee
- Chinese
- Coptic
- Croatian
- Czech
- Danish
- Dari
- Dutch
-
English
American King James Version (akjv) American Standard Version (asv) Basic English Bible (basicenglish) Douay Rheims (douayrheims) John Wycliffe Bible (c.1395) (wycliffe) King James Version (kjv) King James Version (1769) with Strongs Numbers and Morphology and CatchWords, including Apocrypha (without glosses) (kjva) Webster's Bible (wb) Weymouth NT (weymouth) William Tyndale Bible (1525/1530) (tyndale) World English Bible (web) Young's Literal Translation (ylt)
- English and Klingon.
- Esperanto
- Estonian
- Finnish
- French
- German
- Gothic
- Greek
- Greek Modern
- Hebrew
- Hungarian
- Italian
- Japanese
- Korean
- Latin
- Latvian
- Lithuanian
- Malagasy
- Malayalam
- Manx Gaelic
- Maori
- Mongolian
- Myanmar Burmse
- Ndebele
- Norwegian bokmal
- Norwegian nynorsk
- Pohnpeian
- Polish
- Portuguese
- Potawatomi
- Romanian
- Russian
- Scottish Gaelic
- Serbian
- Shona
- Slavonic Elizabeth
- Spanish
- Swahili
- Swedish
- Syriac
- Tagalog
- Tausug
- Thai
- Tok Pisin
- Turkish
- Ukrainian
- Uma
- Vietnamese
-
-
Active Persistent Session:
To use a different persistent session key, simply add it above, and click the button below.
How This All Works
Your persistent session key, together with your favourite verse, authenticates you. It links to all your notes and tags in the Bible. You can share it with loved ones so they can see your notes and tags.
However, to modify your notes and tags, you need both the persistent session key and your favourite verse.
Please Keep Your Favourite Verse Private
Your persistent session key and favourite verse provide you exclusive access to edit your notes and tags. Think of your persistent session key as a username and your favourite verse as a password. Therefore, ensure your favourite verse is kept private.
The persistent session key allows viewing, while editing is only possible when the correct favourite verse is provided.
-
Loading...
-
-
Thai from kjv (thai - 2)
2012-02-15Thai (th)
Thai translation of the King James Version
from http://thaipope.org/webbible/index.html
Permission granted to the CrossWire Bible Society to use and distribute the Thai KJV with the SWORD Project by Philip Pope.- Encoding: UTF-8
- Direction: LTR
- LCSH: Bible. Thai.
- Distribution Abbreviation: thai
License
Copyrighted; Permission to distribute granted to CrossWire
Source (OSIS)
http://thaipope.org/webbible/
- history_2.0
- Module rebuilt from updated source text supplied by translator (2012-02-15)
- history_1.5
- (2003-09-24)
Basic Hash Usage Explained
At getBible, we've established a robust system to keep our API synchronized with the Crosswire project's modules. Let me explain how this integration works in simple terms.
We source our Bible text directly from the Crosswire modules. To monitor any updates, we generate "hash values" for each chapter, book, and translation. These hash values serve as unique identifiers that change only when the underlying content changes, thereby ensuring a tight integration between getBible and the Crosswire modules.
Every month, an automated process runs for approximately three hours. During this window, we fetch the latest Bible text from the Crosswire modules. Subsequently, we compare the new hash values and the text with the previous ones. Any detected changes trigger updates to both our official getBible hash repository and the Bible API for all affected translations. This system has been operating seamlessly for several years.
Once the updates are complete, any application utilizing our Bible API should monitor the hash values at the chapter, book, or translation level. Spotting a change in these values indicates that they should update their respective systems.
Hash values can change due to various reasons, including textual corrections like adding omitted verses, rectifying spelling errors, or addressing any discrepancies flagged by the publishers maintaining the modules at Crosswire.
The Crosswire initiative, also known as the SWORD Project, is the "source of truth" for getBible. Any modifications in the Crosswire modules get reflected in our API within days, ensuring our users access the most precise and current Bible text. We pledge to uphold this standard as long as getBible exists and our build scripts remain operational.
We're united in our mission to preserve the integrity and authenticity of the Bible text. If you have questions or require additional information, please use our support system. We're here to assist and will respond promptly.
Thank you for your understanding and for being an integral part of the getBible community.
Favourite Verse
You should select one of your favourite verses.
This verse in combination with your session key will be used to authenticate you in the future.
This is currently the active session key.
Should you have another session key from a previous session.
You can add it here to load your previous session.