-
WORD Research this...1 Samuel 17
- 1 ฝ่ายคนฟีลิสเตียก็รวบรวมกองทัพเพื่อจะทำสงคราม เขามาชุมนุมกันอยู่ที่ตำบลโสโคห์ ซึ่งเป็นเขตยูดาห์ และตั้งค่ายอยู่ระหว่างตำบลโสโคห์กับตำบลอาเซคาห์ที่เอเฟสดัมมิม
- 2 และซาอูลกับคนอิสราเอลก็ชุมนุมกัน และตั้งค่ายอยู่ที่หุบเขาเอลาห์ และวางแนวไว้ต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย
- 3 คนฟีลิสเตียยืนอยู่ที่ภูเขาข้างหนึ่ง และคนอิสราเอลยืนอยู่ที่ภูเขาอีกข้างหนึ่ง มีหุบเขาคั่นกลาง
- 4 มีผู้หนึ่งชื่อโกลิอัทเป็นยอดทหารได้ออกมาจากค่ายคนฟีลิสเตีย เป็นชาวเมืองกัท สูงหกศอกคืบ
- 5 เขาสวมหมวกทองเหลืองไว้ที่ศีรษะ และสวมเสื้อเกราะ เสื้อเกราะนั้นหนักห้าพันเชเขลเป็นทองเหลือง
- 6 และสวมสนับแข้งทองเหลืองที่ขา และมีหอกทองเหลืองแขวนอยู่ที่บ่า
- 7 ด้ามหอกนั้นเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ตัวหอกหนักหกร้อยเชเขลเป็นเหล็ก ทหารถือโล่ของเขาเดินออกหน้า
- 8 เขาออกมายืนตะโกนไปทางแนวอิสราเอลว่า “เจ้าทั้งหลายออกมาทำศึกทำไมเล่า ข้าเป็นคนฟีลิสเตียไม่ใช่หรือ เจ้าก็เป็นข้ารับใช้ของซาอูลไม่ใช่หรือ จงเลือกคนแทนพวกเจ้า ให้เขาลงมาหาข้านี่
- 9 ถ้าเขาสามารถสู้รบและฆ่าตัวข้าได้ พวกเราจะยอมเป็นข้าของพวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะเขาและฆ่าเขาตาย แล้วพวกเจ้าต้องเป็นข้าของพวกเรา และรับใช้เรา”
- 10 และคนฟีลิสเตียคนนั้นกล่าวว่า “วันนี้ข้าขอท้ากองทัพอิสราเอล จงส่งคนมาสู้กันเถิด”
- 11 เมื่อซาอูลและคนอิสราเอลทั้งสิ้นได้ยินถ้อยคำของคนฟีลิสเตียคนนั้น เขาทั้งหลายก็ท้อใจและกลัวมาก
- 12 ฝ่ายดาวิดเป็นบุตรชายของชาวเอฟราธาห์คนหนึ่งแห่งเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ ชื่อเจสซี ผู้มีบุตรชายแปดคน ในรัชกาลของซาอูล ชายคนนี้เป็นคนแก่แล้วเป็นคนอายุมาก
- 13 บุตรชายใหญ่สามคนของเจสซีก็ตามซาอูลไปทำศึกแล้ว ชื่อของบุตรชายสามคนที่ไปทำศึกนั้นคือ บุตรหัวปีเอลีอับ คนถัดมาอาบีนาดับ และคนที่สามชัมมาห์
- 14 ดาวิดเป็นบุตรสุดท้อง พี่ชายทั้งสามคนก็ตามซาอูลไปแล้ว
- 15 แต่ดาวิดกลับจากซาอูลไปเลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
- 16 คนฟีลิสเตียคนนั้นได้ออกมายืนอยู่ทั้งเช้าและเย็นตั้งสี่สิบวัน
- 17 เจสซีสั่งดาวิดบุตรชายของตนว่า “ข้าวคั่วนี้เอฟาห์หนึ่ง และขนมปังสิบก้อนนี้ อันจัดไว้ให้พวกพี่ชายของเจ้า จงเอาไปให้พี่ชายของเจ้าที่ค่ายเร็วๆ
- 18 และจงนำเนยแข็งสิบชิ้นนี้ไปให้แก่ผู้บังคับกองพันของเขาด้วย ดูว่าพี่ชายของเจ้าทุกข์สุขอย่างไร แล้วรับของฝากมาจากเขาบ้าง”
- 19 ฝ่ายซาอูลกับเขาทั้งหลายและคนอิสราเอลทั้งปวง อยู่ที่หุบเขาเอลาห์สู้รบกับคนฟีลิสเตียอยู่
- 20 ดาวิดจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด และทิ้งแกะไว้กับผู้ดูแลนำเสบียงอาหารเดินทางไปตามที่เจสซีได้บัญชาแก่เขา และเขาก็มาถึงเขตค่ายขณะเมื่อกองทัพกำลังยกออกไปสู่แนวรบพลางร้องกราวศึก
- 21 คนอิสราเอลกับคนฟีลิสเตียก็ยกมาจะปะทะกันกองทัพปะทะกองทัพ
- 22 ดาวิดก็มอบสัมภาระไว้กับผู้ดูแลกองสัมภาระ และวิ่งไปที่แนวรบไปทักทายพี่ชายของตน
- 23 เมื่อเขากำลังพูดกันอยู่ ดูเถิด คนฟีลิสเตียชาวเมืองกัท ยอดทหารที่ชื่อโกลิอัทออกมาจากแนวรบฟีลิสเตีย กล่าวท้าอย่างแต่ก่อนและดาวิดก็ได้ยิน
- 24 เมื่อบรรดาคนอิสราเอลเห็นชายคนนั้นก็วิ่งหนีเขาไป กลัวเขามาก
- 25 คนอิสราเอลพูดว่า “เจ้าเคยเห็นคนที่ออกมานั้นหรือ เขาออกมาท้าทายอิสราเอลแท้ๆ ถ้าใครฆ่าเขาได้ กษัตริย์จะพระราชทานทรัพย์ให้เขามากมาย และจะมอบราชธิดาให้ด้วย และกระทำให้วงศ์วานบิดาของเขาเป็นคนยกเว้นการเกณฑ์ในอิสราเอล”
- 26 และดาวิดกล่าวแก่ชายคนที่ยืนอยู่ข้างเขาว่า “เขาจะทำอย่างไรแก่คนที่ฆ่าคนฟีลิสเตียคนนี้ได้ และนำเอาความเหยียดหยามอิสราเอลไปเสีย คนฟีลิสเตียผู้มิได้เข้าสุหนัตคนนี้คือใครเล่า เขาจึงมาท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
- 27 ประชาชนก็ตอบเขาอย่างเดียวกันว่า “ผู้ที่ฆ่าเขาได้ก็จะได้รับดังที่กล่าวมาแล้วนั้น”
- 28 ฝ่ายเอลีอับพี่ชายหัวปีได้ยินคำที่ดาวิดพูดกับชายคนนั้น เอลีอับก็โกรธดาวิดกล่าวว่า “เจ้าลงมาทำไม เจ้าทิ้งแกะไม่กี่ตัวที่ถิ่นทุรกันดารไว้กับใคร ข้ารู้ถึงความทะเยอทะยานของเจ้า และความคิดชั่วของเจ้า เพราะเจ้าลงมาเพื่อจะมาดูเขารบกัน”
- 29 ดาวิดจึงตอบว่า “ผมได้ทำอะไรไปแล้วเล่า ไม่มีเหตุผลหรือ”
- 30 เขาจึงหันไปหาคนอื่นเสีย และพูดอย่างเดียวกัน และประชาชนก็ตอบแก่เขาอย่างคราวก่อน
- 31 เมื่อเขาทั้งหลายได้ยินคำที่ดาวิดพูด เขาทั้งหลายก็เล่าความให้ซาอูลทราบ ซาอูลจึงใช้คนให้มาตามดาวิด
- 32 ดาวิดก็ทูลซาอูลว่า “อย่าให้จิตใจของผู้ใดฝ่อไปเพราะชายคนนั้นเลย ผู้รับใช้ของพระองค์จะไปสู้รบกับคนฟีลิสเตียคนนี้”
- 33 และซาอูลกล่าวแก่ดาวิดว่า “เจ้าไม่สามารถที่จะไปสู้รบกับชายฟีลิสเตียคนนั้นดอก เพราะเจ้าเป็นแต่เด็กหนุ่ม และเขาเป็นทหารชำนาญศึกมาตั้งแต่หนุ่มๆแล้ว”
- 34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของพระองค์เคยดูแลแพะแกะของบิดา และเมื่อมีสิงโตหรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
- 35 ข้าพระองค์ก็ไล่ตามฆ่ามัน และช่วยลูกแกะนั้นให้พ้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็จับหนวดเคราของมัน และทุบตีมันจนตาย
- 36 ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ฆ่าสิงโตและหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้มิได้เข้าสุหนัตคนนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
- 37 และดาวิดทูลต่อไปว่า “พระเยโฮวาห์ผู้ทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากเท้าของสิงโตและจากเท้าของหมี จะทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตียคนนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระเยโฮวาห์จะทรงสถิตอยู่กับเจ้า”
- 38 แล้วซาอูลก็ทรงเอาเครื่องอาวุธของพระองค์สวมให้ดาวิด ทรงสวมหมวกทองเหลืองบนศีรษะของเขา และสวมเสื้อเกราะให้เขา
- 39 และดาวิดก็คาดดาบทับเครื่องอาวุธ เขาลองเดินดูก็เห็นว่าใช้ไม่ได้ เพราะเขาไม่ชิน แล้วดาวิดจึงทูลซาอูลว่า “ข้าพระองค์จะสวมเครื่องเหล่านี้ไปไม่ได้ เพราะว่าข้าพระองค์ไม่ชิน” ดาวิดจึงปลดออกเสีย
- 40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ เขาก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
- 41 คนฟีลิสเตียนั้นก็ออกมาใกล้ดาวิด พร้อมกับคนถือโล่เดินออกหน้า
- 42 เมื่อคนฟีลิสเตียมองไปรอบๆ และเห็นดาวิดก็ดูถูกเขา เพราะเขาเป็นแต่คนหนุ่ม ผิวแดงๆ และมีใบหน้างดงาม
- 43 คนฟีลิสเตียจึงพูดกับดาวิดว่า “ข้าเป็นหมาหรือเจ้าจึงถือไม้เท้ามาหาข้า” และคนฟีลิสเตียคนนั้นก็แช่งด่าดาวิดออกนามพระของตน
- 44 คนฟีลิสเตียพูดกับดาวิดว่า “มาหาข้านี่ ข้าจะเอาเนื้อของเจ้าให้นกในอากาศกับสัตว์ในทุ่งกิน”
- 45 แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยโล่ แต่ข้าพเจ้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระเยโฮวาห์จอมโยธา พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทายนั้น
- 46 ในวันนี้พระเยโฮวาห์จะทรงมอบท่านไว้ในมือข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะประหารท่าน และตัดศีรษะของท่านเสีย และในวันนี้ข้าพเจ้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและแก่สัตว์ป่า เพื่อทั้งพิภพนี้จะทราบว่ามีพระเจ้าพระองค์หนึ่งในอิสราเอล
- 47 และชุมนุมชนนี้ทั้งสิ้นจะทราบว่าพระเยโฮวาห์มิได้ทรงช่วยด้วยดาบหรือด้วยหอก เพราะว่าการรบเป็นของพระเยโฮวาห์ พระองค์จะทรงมอบท่านไว้ในมือของเราทั้งหลาย”
- 48 อยู่มาเมื่อคนฟีลิสเตียคนนั้นลุกขึ้นเข้ามาใกล้เพื่อปะทะดาวิด ดาวิดก็วิ่งเข้าหาแนวรบเพื่อปะทะกับคนฟีลิสเตียคนนั้นอย่างรวดเร็ว
- 49 และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้นด้วยสายสลิง ถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผาก เขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน
- 50 ดังนั้นดาวิดก็ชนะคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นลง และฆ่าเขาเสีย ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ
- 51 ดังนั้นแล้วดาวิดจึงวิ่งไปยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น หยิบดาบของเขาชักออกจากฝักฆ่าเขาเสียและตัดศีรษะของเขาออกเสียด้วยดาบเล่มนั้น เมื่อคนฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสียแล้วก็พากันหนีไป
- 52 คนอิสราเอลกับคนยูดาห์ก็ลุกขึ้นโห่ร้องไล่ติดตามคนฟีลิสเตียไกลไปจนถึงหุบเขาและถึงประตูเมืองเอโครน ทหารฟีลิสเตียที่บาดเจ็บจึงล้มลงตามทางจากชาอาราอิม ไกลไปจนถึงเมืองกัทและเมืองเอโครน
- 53 และคนอิสราเอลก็กลับมาจากการไล่ติดตามคนฟีลิสเตีย และมาปล้นค่ายของเขา
- 54 ดาวิดก็นำศีรษะของคนฟีลิสเตียคนนั้นมาที่กรุงเยรูซาเล็ม แต่เขาเอาเครื่องอาวุธของเขาไว้ที่เต็นท์ของตนแล้ว
- 55 เมื่อซาอูลทรงเห็นดาวิดออกไปต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย จึงตรัสถามอับเนอร์แม่ทัพของพระองค์ว่า “อับเนอร์ ชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกของใคร” และอับเนอร์ทูลว่า “โอ ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพระองค์ไม่ทราบ”
- 56 กษัตริย์จึงรับสั่งว่า “ไปสืบถามดูว่า เจ้าหนุ่มคนนั้นเป็นลูกของใคร”
- 57 เมื่อดาวิดกลับมาจากการฆ่าคนฟีลิสเตีย อับเนอร์ก็มาพาตัวเขาเข้าไปเฝ้าซาอูลถือศีรษะของคนฟีลิสเตียคนนั้นไปด้วย
- 58 ซาอูลจึงตรัสถามเขาว่า “เจ้าหนุ่มเอ๋ย เจ้าเป็นลูกของใคร” และดาวิดทูลว่า “ข้าพระองค์เป็นบุตรของเจสซีชาวเบธเลเฮมผู้รับใช้ของพระองค์”
- 1 บัดนี้คนฟีลิสเตียได้รวบรวมกองทัพของตนเพื่อจะทำการสู้รบ และได้รวมตัวกันที่ตำบลโสโคห์ ซึ่งเป็นของเผ่ายูดาห์ และตั้งเต็นท์อยู่ระหว่างตำบลโสโคห์กับตำบลอาเซคาห์ในเอเฟสดัมมิม
- 2 และซาอูลกับคนอิสราเอลได้รวมตัวกัน และตั้งเต็นท์อยู่ข้างหุบเขาแห่งเอลาห์ และวางกำลังพลเรียงรายต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย
- 3 และคนฟีลิสเตียยืนอยู่บนภูเขาข้างหนึ่ง และคนอิสราเอลยืนอยู่บนภูเขาอีกข้างหนึ่ง และมีหุบเขาอยู่ระหว่างเขาทั้งสองฝ่าย
- 4 และมีผู้หนึ่งเป็นยอดทหารได้ออกมาจากค่ายของคนฟีลิสเตีย ชื่อโกลิอัท ชาวเมืองกัท ผู้ซึ่งความสูงของเขาคือหกศอกกับหนึ่งคืบ
- 5 และเขาสวมหมวกทองเหลืองไว้บนศีรษะของเขา และเขาติดอาวุธด้วยเสื้อเกราะทองเหลือง และน้ำหนักของเสื้อเกราะนั้นคือทองเหลืองห้าพันเชเขล
- 6 และเขาสวมสนับแข้งทองเหลืองบนขาของเขา และมีโล่บังคอทองเหลืองอยู่ระหว่างไหล่ของเขา
- 7 และด้ามหอกของเขานั้นเป็นเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า และหัวหอกของเขาทำด้วยเหล็กมีน้ำหนักหกร้อยเชเขล และคนหนึ่งถือโล่เดินนำหน้าเขา
- 8 และเขายืนและร้องตะโกนไปทางกองทัพของคนอิสราเอล และกล่าวแก่พวกเขาว่า “ทำไมพวกเจ้าออกมาวางกำลังพลเรียงรายของพวกเจ้าเล่า ข้าเป็นคนฟีลิสเตียไม่ใช่หรือ และพวกเจ้าก็เป็นพวกคนรับใช้ของซาอูลไม่ใช่หรือ พวกเจ้าจงเลือกคนหนึ่งแทนพวกเจ้า และให้เขาลงมาหาข้า
- 9 ถ้าเขาสามารถต่อสู้กับข้าและฆ่าข้าได้ ดังนั้นพวกเราจะยอมเป็นพวกคนรับใช้ของพวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะเขาและฆ่าเขาเสีย แล้วพวกเจ้าจะต้องเป็นพวกคนรับใช้ของพวกเรา และรับใช้พวกเรา”
- 10 และคนฟีลิสเตียคนนั้นกล่าวว่า “ข้าขอท้าทายกองทัพทั้งหลายของคนอิสราเอลวันนี้ จงส่งคนหนึ่งมาหาข้า เพื่อเราทั้งสองจะต่อสู้กัน”
- 11 เมื่อซาอูลและคนอิสราเอลทั้งสิ้นได้ยินบรรดาถ้อยคำของคนฟีลิสเตียคนนั้น พวกเขาก็สะดุ้งกลัวและหวาดกลัวยิ่งนัก
- 12 บัดนี้ดาวิดเป็นบุตรชายของชาวเอฟราธาห์คนหนึ่งแห่งเมืองเบธเลเฮมยูดาห์ ผู้ซึ่งชื่อของเขาคือเจสซี และเขามีบุตรชายแปดคน และชายคนนี้ในท่ามกลางคนทั้งปวงถูกนับว่าเป็นคนชราแล้วในสมัยรัชกาลของซาอูล
- 13 และบุตรชายคนโตสามคนของเจสซีได้ไปและตามซาอูลไปยังการสู้รบ และชื่อของบุตรชายสามคนของเขาที่ไปยังการสู้รบนั้นคือ เอลีอับบุตรหัวปี และคนต่อมาคืออาบีนาดับ และคนที่สามคือชัมมาห์
- 14 และดาวิดเป็นบุตรคนสุดท้อง และพี่ชายทั้งสามคนก็ติดตามซาอูลไปแล้ว
- 15 แต่ดาวิดไปและหันกลับจากซาอูลเพื่อจะเลี้ยงฝูงแกะของบิดาของเขาที่เบธเลเฮม
- 16 และคนฟีลิสเตียคนนั้นได้เข้ามาใกล้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น และปรากฏตัวสี่สิบวัน
- 17 และเจสซีกล่าวแก่ดาวิดบุตรชายของตนว่า “บัดนี้จงเอาไปสำหรับพวกพี่ชายของเจ้า ข้าวคั่วนี้หนึ่งเอฟาห์ และขนมปังสิบก้อนนี้ และรีบไปยังค่ายไปหาพวกพี่ชายของเจ้า
- 18 และจงถือเนยแข็งสิบชิ้นนี้ไปให้แก่นายพันของพวกพี่ชาย และดูว่าพวกพี่ชายของเจ้าเป็นอยู่อย่างไรบ้าง และเอาข่าวคราวมาจากพวกเขา”
- 19 บัดนี้ซาอูลกับพวกเขาและบรรดากองทหารอิสราเอล อยู่ในหุบเขาแห่งเอลาห์ กำลังต่อสู้กับคนฟีลิสเตียอยู่
- 20 และดาวิดได้ลุกขึ้นแต่เช้ามืด และทิ้งฝูงแกะไว้กับผู้ดูแลคนหนึ่ง และหยิบข้าวของ และไป ตามที่เจสซีได้สั่งเขาไว้ และเขาได้มาถึงสนามเพลาะรอบค่าย ขณะที่กองทหารกำลังยกออกไปเพื่อต่อสู้ และร้องเสียงดังเพื่อเข้าสู้รบ
- 21 ด้วยว่าคนอิสราเอลกับคนฟีลิสเตียได้จัดแนวรบไว้ต่อสู้กันแล้ว กองทัพต่อกองทัพ
- 22 และดาวิดได้มอบสัมภาระของตนไว้ในมือของผู้ดูแลกองสัมภาระ และวิ่งไปที่แนวรบ และได้มาและทักทายพวกพี่ชายของตน
- 23 และขณะที่เขากำลังพูดกับพวกพี่ชายอยู่นั้น ดูเถิด ยอดทหารคนนั้นได้ขึ้นมา คือคนฟีลิสเตียชาวเมืองกัท ที่มีชื่อว่าโกลิอัท ออกมาจากแนวรบของคนฟีลิสเตีย และพูดตามบรรดาถ้อยคำเดิม และดาวิดก็ได้ยินคำเหล่านั้น
- 24 และบรรดากองทหารอิสราเอล เมื่อพวกเขาเห็นชายคนนั้นก็วิ่งหนีไปจากเขา และมีความกลัวยิ่งนัก
- 25 และกองทหารอิสราเอลกล่าวว่า “พวกเจ้าเห็นชายที่ขึ้นมานี้แล้วหรือ เขาขึ้นมาเพื่อท้าทายอิสราเอลอย่างแน่นอน และจะเป็นอย่างนี้คือ คนที่ฆ่าเขาเสีย กษัตริย์จะพระราชทานทรัพย์มากมายให้เขา และจะยกราชธิดาของพระองค์ให้เขา และกระทำให้วงศ์วานบิดาของเขาเป็นอิสระในอิสราเอล”
- 26 และดาวิดพูดกับกองทหารที่ยืนอยู่ข้างเขา โดยกล่าวว่า “จะกระทำสิ่งใดเล่าต่อผู้ที่ฆ่าคนฟีลิสเตียคนนี้ และนำเอาการติเตียนไปเสียจากอิสราเอล ด้วยว่าคนฟีลิสเตียผู้มิได้เข้าสุหนัตคนนี้เป็นใครเล่า ที่เขามาท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
- 27 และกองทหารได้ตอบเขาอย่างเดียวกัน โดยกล่าวว่า “จะกระทำเช่นนั้นแหละต่อผู้ที่ฆ่าเขาได้”
- 28 และเอลีอับพี่ชายคนโตของเขาได้ยินเมื่อดาวิดพูดกับกองทหารนั้น และความโกรธของเอลีอับก็พลุ่งขึ้นต่อดาวิด และเขากล่าวว่า “ทำไมเจ้าได้ลงมาที่นี่ และเจ้าได้ทิ้งแกะไม่กี่ตัวในถิ่นทุรกันดารไว้กับใคร ข้ารู้ถึงความทะเยอทะยานของเจ้า และความดื้อรั้นแห่งใจของเจ้า เพราะเจ้าได้ลงมาเพื่อเจ้าจะดูการสู้รบกัน”
- 29 และดาวิดกล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าได้ทำอะไรเล่า มีชนวนเหตุไม่เพียงพอหรือ”
- 30 และดาวิดได้หันจากพี่ชายไปหาคนอื่นเสีย และพูดอย่างเดียวกัน และกองทหารได้ตอบเขาอีกอย่างคราวก่อน
- 31 และเมื่อบรรดาถ้อยคำซึ่งดาวิดได้พูดถูกได้ยิน พวกเขาก็เล่าถ้อยคำเหล่านั้นต่อพระพักตร์ซาอูล และซาอูลได้ส่งให้มาตามดาวิด
- 32 และดาวิดได้ทูลซาอูลว่า “อย่าให้ใจของผู้ใดฝ่อไปเพราะเหตุชายคนนั้นเลย ผู้รับใช้ของพระองค์จะไปและต่อสู้กับคนฟีลิสเตียคนนี้”
- 33 และซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “เจ้าไม่สามารถที่จะไปเผชิญหน้ากับคนฟีลิสเตียคนนั้นเพื่อจะต่อสู้กับเขาได้ เพราะเจ้าเป็นแต่เด็กหนุ่ม และเขาเป็นทหารชำนาญศึกมาตั้งแต่วัยหนุ่มของเขาแล้ว”
- 34 และดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของพระองค์เคยดูแลฝูงแกะของบิดาของข้าพระองค์ และมีสิงโตตัวหนึ่งมา และหมีตัวหนึ่ง และเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
- 35 และข้าพระองค์ก็ออกไปไล่ตามมัน และฟาดฟันมัน และช่วยลูกแกะนั้นให้พ้นจากปากของมัน และเมื่อมันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็จับมันที่เคราของมัน และทุบตีมัน และฆ่ามันเสีย
- 36 ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ฆ่าทั้งสิงโตและหมีนั้นมาแล้ว และคนฟีลิสเตียผู้มิได้เข้าสุหนัตคนนี้ก็จะเป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง โดยเห็นว่าเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
- 37 ดาวิดทูลยิ่งกว่านั้นว่า “พระเยโฮวาห์ผู้ได้ทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากอุ้งเท้าของสิงโต และจากอุ้งเท้าของหมี พระองค์จะทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตียคนนี้” และซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “จงไปเถิด และขอพระเยโฮวาห์ทรงสถิตอยู่กับเจ้า”
- 38 และซาอูลได้ให้ดาวิดสวมเครื่องอาวุธของพระองค์ และพระองค์เอาหมวกทองเหลืองสวมไว้บนศีรษะของเขา พระองค์ให้เขาสวมเสื้อเกราะด้วย
- 39 และดาวิดได้คาดดาบของพระองค์ไว้บนเครื่องอาวุธของพระองค์นั้น และเขาลองเดินดู เพราะเขายังไม่คุ้นเคยกับเครื่องอาวุธนั้น และดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระองค์ไม่สามารถสวมเครื่องอาวุธเหล่านี้ได้ เพราะว่าข้าพระองค์ยังไม่คุ้นเคยกับเครื่องอาวุธเหล่านี้” และดาวิดได้ปลดเครื่องอาวุธเหล่านั้นออกเสียจากตัวเขา
- 40 และดาวิดถือไม้เท้าของเขาไว้ในมือของเขา และเลือกก้อนหินเกลี้ยงห้าก้อนสำหรับตนจากลำธาร และใส่ก้อนหินเหล่านั้นในย่ามผู้เลี้ยงแกะซึ่งเขามีอยู่ คือในถุงย่ามถุงหนึ่ง และสลิงของเขาอยู่ในมือของเขา และเขาเข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
- 41 และคนฟีลิสเตียนั้นได้ออกมาและเข้ามาใกล้ดาวิด และคนที่ถือโล่นั้นเดินนำหน้าเขาไป
- 42 และเมื่อคนฟีลิสเตียนั้นมองดูรอบ ๆ และเห็นดาวิด คนฟีลิสเตียนั้นก็ดูถูกเขา เพราะเขาเป็นแต่คนหนุ่ม และมีผิวเปล่งปลั่ง และมีหน้าตางามสง่า
- 43 และคนฟีลิสเตียนั้นกล่าวแก่ดาวิดว่า “ข้าเป็นหมาหรือ ที่เจ้าออกมาหาข้าด้วยพวกไม้เท้า” และคนฟีลิสเตียคนนั้นก็แช่งด่าดาวิดโดยพระทั้งหลายของตน
- 44 และคนฟีลิสเตียนั้นกล่าวแก่ดาวิดว่า “มาหาข้าซิ และข้าจะให้เนื้อของเจ้าแก่พวกนกแห่งอากาศ และแก่ฝูงสัตว์ป่าแห่งท้องทุ่ง”
- 45 แล้วดาวิดกล่าวแก่คนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “เจ้ามาหาข้าด้วยดาบ และด้วยหอก และด้วยโล่ แต่ข้ามาหาเจ้าในพระนามของพระเยโฮวาห์จอมโยธา พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งเจ้าได้ท้าทายนั้น
- 46 วันนี้พระเยโฮวาห์จะทรงมอบเจ้าไว้ในมือของข้า และข้าจะประหารเจ้า และตัดศีรษะของเจ้าออกเสียจากเจ้า และวันนี้ข้าจะให้บรรดาศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่พวกนกแห่งอากาศและแก่ฝูงสัตว์ป่าแห่งแผ่นดินโลก เพื่อทั้งพิภพจะได้ทราบว่ามีพระเจ้าองค์หนึ่งในอิสราเอล
- 47 และชุมนุมชนทั้งสิ้นนี้จะทราบว่า พระเยโฮวาห์ทรงช่วยให้รอดพ้นมิใช่ด้วยดาบและหอก เพราะว่าการสู้รบเป็นของพระเยโฮวาห์ และพระองค์จะทรงมอบพวกเจ้าไว้ในมือของพวกเรา”
- 48 และต่อมา เมื่อคนฟีลิสเตียคนนั้นลุกขึ้น และมา และเข้ามาใกล้เพื่อเผชิญหน้ากับดาวิด ดาวิดก็รีบ และวิ่งเข้าหาแนวรบเพื่อเผชิญหน้ากับคนฟีลิสเตียคนนั้น
- 49 และดาวิดเอามือของตนล้วงเข้าไปในย่ามของตน และหยิบหินก้อนหนึ่งออกมา และใช้สลิงยิงหินก้อนนั้น และถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นเข้าที่หน้าผากของเขา จนหินก้อนนั้นจมฝังเข้าไปในหน้าผากของเขา และเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่พื้นดิน
- 50 ดังนั้นดาวิดจึงมีชัยเหนือคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงอันหนึ่งและด้วยหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้น และฆ่าเขาเสีย แต่ไม่มีดาบสักเล่มอยู่ในมือของดาวิด
- 51 ฉะนั้นดาวิดจึงวิ่งไป และยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น และหยิบดาบของเขา และชักมันออกจากฝักของมัน และฆ่าเขาเสีย และตัดศีรษะของเขาออกเสียด้วยดาบเล่มนั้น และเมื่อคนฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของพวกเขาตายเสียแล้ว พวกเขาก็หนีไป
- 52 และกองทหารของอิสราเอลกับของยูดาห์ก็ลุกขึ้น และโห่ร้อง และไล่ติดตามคนฟีลิสเตียจนถึงหุบเขา และถึงบรรดาประตูเมืองของเมืองเอโครน และคนที่บาดเจ็บของคนฟีลิสเตียก็ล้มลงตามทางไปยังชาอาราอิม คือจนถึงเมืองกัทและจนถึงเมืองเอโครน
- 53 และลูกหลานของอิสราเอลก็กลับมาจากการไล่ติดตามคนฟีลิสเตีย และพวกเขามาริบข้าวของจากเต็นท์ทั้งหลายของคนเหล่านั้น
- 54 และดาวิดได้เอาศีรษะของคนฟีลิสเตียคนนั้น และนำมันมายังกรุงเยรูซาเล็ม แต่เขาได้เอาเครื่องอาวุธของคนฟีลิสเตียคนนั้นไว้ในเต็นท์ของตน
- 55 และเมื่อซาอูลเห็นดาวิดออกไปต่อสู้กับคนฟีลิสเตียนั้น พระองค์ก็ตรัสกับอับเนอร์ผู้เป็นแม่ทัพว่า “อับเนอร์ ชายหนุ่มคนนี้เป็นบุตรชายของใคร” และอับเนอร์ทูลว่า “พระองค์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด โอ ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพระองค์ไม่ทราบ”
- 56 และกษัตริย์ตรัสว่า “เจ้าจงไปสอบถามดูว่า ชายหนุ่มคนนั้นเป็นบุตรชายของใคร”
- 57 และขณะที่ดาวิดกำลังกลับมาจากการฆ่าคนฟีลิสเตียผู้นั้น อับเนอร์ก็พาเขาไป และนำเขาเข้าเฝ้าซาอูลพร้อมกับศีรษะของคนฟีลิสเตียคนนั้นในมือของเขา
- 58 และซาอูลตรัสกับเขาว่า “เจ้าเป็นบุตรชายของใคร เจ้า ชายหนุ่มเอ๋ย” และดาวิดทูลตอบว่า “ข้าพระองค์เป็นบุตรชายของเจสซีชาวเบธเลเฮมผู้รับใช้ของพระองค์”
-
-
King James Version (kjv)
- Afrikaans
- Albanian
- Arabic
- Armenian
- Basque
- Breton
- Calo
- Chamorro
- Cherokee
- Chinese
- Coptic
- Croatian
- Czech
- Danish
- Dari
- Dutch
-
English
American King James Version (akjv) American Standard Version (asv) Basic English Bible (basicenglish) Douay Rheims (douayrheims) John Wycliffe Bible (c.1395) (wycliffe) King James Version (kjv) King James Version (1769) with Strongs Numbers and Morphology and CatchWords, including Apocrypha (without glosses) (kjva) Webster's Bible (wb) Weymouth NT (weymouth) William Tyndale Bible (1525/1530) (tyndale) World English Bible (web) Young's Literal Translation (ylt)
- English and Klingon.
- Esperanto
- Estonian
- Finnish
- French
- German
- Gothic
- Greek
- Greek Modern
- Hebrew
- Hungarian
- Italian
- Japanese
- Korean
- Latin
- Latvian
- Lithuanian
- Malagasy
- Malayalam
- Manx Gaelic
- Maori
- Mongolian
- Myanmar Burmse
- Ndebele
- Norwegian bokmal
- Norwegian nynorsk
- Pohnpeian
- Polish
- Portuguese
- Potawatomi
- Romanian
- Russian
- Scottish Gaelic
- Serbian
- Shona
- Slavonic Elizabeth
- Spanish
- Swahili
- Swedish
- Syriac
- Tagalog
- Tausug
- Thai
- Tok Pisin
- Turkish
- Ukrainian
- Uma
- Vietnamese
-
-
Active Persistent Session:
To use a different persistent session key, simply add it above, and click the button below.
How This All Works
Your persistent session key, together with your favourite verse, authenticates you. It links to all your notes and tags in the Bible. You can share it with loved ones so they can see your notes and tags.
However, to modify your notes and tags, you need both the persistent session key and your favourite verse.
Please Keep Your Favourite Verse Private
Your persistent session key and favourite verse provide you exclusive access to edit your notes and tags. Think of your persistent session key as a username and your favourite verse as a password. Therefore, ensure your favourite verse is kept private.
The persistent session key allows viewing, while editing is only possible when the correct favourite verse is provided.
-
Loading...
-
-
Thai from kjv (thai - 2)
2012-02-15Thai (th)
Thai translation of the King James Version
from http://thaipope.org/webbible/index.html
Permission granted to the CrossWire Bible Society to use and distribute the Thai KJV with the SWORD Project by Philip Pope.- Encoding: UTF-8
- Direction: LTR
- LCSH: Bible. Thai.
- Distribution Abbreviation: thai
License
Copyrighted; Permission to distribute granted to CrossWire
Source (OSIS)
http://thaipope.org/webbible/
- history_2.0
- Module rebuilt from updated source text supplied by translator (2012-02-15)
- history_1.5
- (2003-09-24)
Basic Hash Usage Explained
At getBible, we've established a robust system to keep our API synchronized with the Crosswire project's modules. Let me explain how this integration works in simple terms.
We source our Bible text directly from the Crosswire modules. To monitor any updates, we generate "hash values" for each chapter, book, and translation. These hash values serve as unique identifiers that change only when the underlying content changes, thereby ensuring a tight integration between getBible and the Crosswire modules.
Every month, an automated process runs for approximately three hours. During this window, we fetch the latest Bible text from the Crosswire modules. Subsequently, we compare the new hash values and the text with the previous ones. Any detected changes trigger updates to both our official getBible hash repository and the Bible API for all affected translations. This system has been operating seamlessly for several years.
Once the updates are complete, any application utilizing our Bible API should monitor the hash values at the chapter, book, or translation level. Spotting a change in these values indicates that they should update their respective systems.
Hash values can change due to various reasons, including textual corrections like adding omitted verses, rectifying spelling errors, or addressing any discrepancies flagged by the publishers maintaining the modules at Crosswire.
The Crosswire initiative, also known as the SWORD Project, is the "source of truth" for getBible. Any modifications in the Crosswire modules get reflected in our API within days, ensuring our users access the most precise and current Bible text. We pledge to uphold this standard as long as getBible exists and our build scripts remain operational.
We're united in our mission to preserve the integrity and authenticity of the Bible text. If you have questions or require additional information, please use our support system. We're here to assist and will respond promptly.
Thank you for your understanding and for being an integral part of the getBible community.
Favourite Verse
You should select one of your favourite verses.
This verse in combination with your session key will be used to authenticate you in the future.
This is currently the active session key.
Should you have another session key from a previous session.
You can add it here to load your previous session.